ต้อม-รัชนีกร 1

“ต้อม รชนีกร” ปล่อยโฮ! โดนบูลลี่หนักหลังทำศัลยกรรม
จิตตกไม่กล้าออกจากบ้าน

นักแสดงสาว “ต้อม-รัชนีกร พันธุ์มณี” ได้ประกาศอย่างเศร้าในรายการสัมภาษณ์ว่าถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากทำศัลยกรรมที่ทำให้เสียใจมาก โดยเฉพาะภาพหลุดที่มีการทำศัลยกรรมออกมาขณะที่หน้ายังไม่เข้าที่. นักแสดงต้องเผชิญกับการต่อสู้กับคำวิจารณ์ที่มีน้ำหนักมากจากสาธารณชน.

“ต้อม-รัชนีกร พันธุ์มณี” อยากทำให้ทราบว่าเธอได้รับคำวิจารณ์หนักมากมายในหลายมุมมองและได้รับผลกระทบทางจิตใจจากคำวิจารณ์เหล่านั้น. เธอร้องไห้ในรายการแชทเพื่อแสดงถึงความเสียใจและประสบการณ์ที่ยากลำบาก.

“ตัดกราม แล้วก็ดึงหน้า แต่ก็ไม่ได้อย่างที่ออกข่าวมานะว่าไปทำจมูก ไปทำตาเพิ่ม ไม่ได้ทำ” เธอกล่าวถึงการทำศัลยกรรมที่ได้ทำ.

เกิดเหตุใดที่เธอตัดสินใจทำศัลยกรรมในครั้งนี้? เธออธิบายว่าเราได้ติดต่อจากโรงพยาบาลมาเกือบ 3 ปี แล้ว แต่ทำไม่ทัน ยังกลัวและไม่พร้อม แต่เมื่อเห็นเพื่อน ๆ และคนที่รู้จักไปทำมากมาย, รวมทั้งด้วยวัยที่ไม่หน้าตายน่าจะทำ, เธอกลับมีความกล้ามากขึ้น.

“เรามีความรู้สึกว่าถ้าเราเก็บไว้สัก 10 ปี, 60 กว่าเราคงจะไหวไหมกับการไปดมยา, ผ่าตัด (เป็นครั้งแรกในการทำศัลยกรรม?) ถ้าถือว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ ใช่ค่ะ, นอกนั้นก็เป็นผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ ทำจมูกก็ไม่ได้หนักหนา, แต่อันนี้คือผ่าตัดใหญ่” เธอได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมในครั้งนี้.

เธอทำไมถึงทำการตัดกรามซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ตัดสินใจที่จะทำไว้ก่อนหน้า?

“ไม่เลย ไม่มีในหัวสมอง, เพราะกรามน้อยของเรามันดูเซ็กซี่ออก, เราชอบ, แต่ว่ามันต้องย้อนไปตอนที่เราเป็นวัยรุ่น ที่เราไปฉีดสารเหลวตอนอายุ 20 กว่าที่เรารู้ไม่ทัน, แต่ก็ได้เลาะออกไปแล้ว, แต่พอเราอายุมากขึ้นมันก็หย่อนคล้อยตาม คุณหมอบอกว่าไม่อยากทำอะไรที่มันเกี่ยวกับสารเหลวที่เหลือ, จะเลาะก็กลัวเป็นรอย, คุณหมอเลยดีไซน์ว่าขอเป็นการตัดกราม แล้วเอากรามมาต่อคางได้ไหม, เพราะถ้าดึงไปเลย โดยที่ยังมีสารเหลวอยู่ หน้ามันจะแบน, เราก็เลยโอเค ทำก็ทำ”

ต้อม-รัชนีกร 2

นักแสดงสาว “ต้อม-รัชนีกร พันธุ์มณี” แชร์ถึงประสบการณ์การทำศัลยกรรมที่ทำให้เธอต้องต่อสู้กับความกลัวและคำวิจารณ์จากสาธารณชน. เธอเริ่มต้นการทำศัลยกรรมนี้โดยการตัดกราม และการทำศัลยกรรมนั้นในรอบนี้เป็นครั้งแรกและเป็นอย่างเดียวหรือไม่.

เธออธิบายว่าการทำศัลยกรรมนั้นเกิดขึ้นในวันที่ได้ทำการผ่าตัดกรามเป็นครั้งแรก แต่จริงๆ แล้วการตัดกรามนั้นเกิดขึ้นพร้อมกับการดึงหน้า. เมื่อออกมาหลังจากการผ่าตัด, เธอรู้สึกว่าการพูดหรือทำอะไรบางอย่างยังไม่ได้รับการอนุมัติ, ทำให้เธอรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการติดปัญหาละคร.

เกี่ยวกับการดูแลหลังการทำศัลยกรรม, เธอได้รับการดูแลจากแฟนของเธอ. แฟนได้ทำทุกอย่างเพื่อให้เธอสบาย, รวมถึงการป้อนน้ำและโจ๊กเพื่อให้เธอได้รับสารอาหาร.

เมื่อถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับความพยายามของแฟนในการดูแล, เธอกล่าวว่าเข้าใจและรู้สึกเห็นใจต่อความพยายามของแฟนที่ดูแลเธอ. นอกจากนี้, เธอก็อธิบายถึงคำถามที่เคยถามแฟนเมื่อหน้าเธอกลับมาไม่เหมือนเดิม ว่าแฟนจะยังรักเธออยู่หรือไม่, และแฟนได้ตอบว่าความเปลี่ยนแปลงทางภายนอกไม่มีผลต่อความรัก.

เกี่ยวกับการเปิดเผยตัวตนหรือไม่, เธอได้รับคำแนะนำจากแฟนที่ไม่ควรเปิดเผยหน้าตาสวยๆ ในทีวี และเธอรู้สึกยินดีที่ได้คนดีเป็นแฟน. การทำศัลยกรรมนี้ถูกทำขึ้นโดยไม่เข็ดหรือแกว่ง, และเธอยังไม่ทราบว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง. เธอกล่าวว่าต้องรอดูว่ามันจะเป็นยังไงและต้องรอบคอบในการคุย.

ขอบคุณบทความจาก : ต้อม รชนีกร